นโยบายความเป็นส่วนตัว

วารสารรายงานการเฝ้าระวังทางระบาดวิทยาประจำสัปดาห์ (WESR) ให้ความสำคัญต่อพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
พ.ศ. 2562 ซึ่งมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2562 และดำเนินการตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเชื่อมั่นว่าวารสารฯ จะดูแลรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลและจัดให้มีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยที่เหมาะสม

นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของวารสารรายงานการเฝ้าระวังทางระบาดวิทยาประจำสัปดาห์ (WESR)

1. คำนิยาม

“วารสารฯ” หมายถึง วารสารรายงานการเฝ้าระวังทางระบาดวิทยาประจำสัปดาห์ (Weekly Epidemiology Surveillance Report: WESR) 
“บุคคล” หมายถึง บุคคลธรรมดา

“ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายความว่า ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ อาทิ ชื่อ นามสกุล ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ ที่อยู่อีเมล (email address) IP Address, Cookie ID, Log File เป็นต้น อย่างไรก็ดี ข้อมูลต่อไปนี้ไม่ใช่ข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ข้อมูลสำหรับการติดต่อทางธุรกิจที่ไม่ได้ระบุถึงตัวบุคคล อาทิ ชื่อบริษัท ที่อยู่ของบริษัท เลขทะเบียนนิติบุคคลของบริษัท หมายเลขโทรศัพท์ของที่ทำงาน ที่อยู่อีเมล (email address) ที่ใช้ในการทำงาน ที่อยู่อีเมล (email address) ข้อมูลนิรนาม (Anonymous Data) หรือข้อมูลแฝงที่ถูกทำให้ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้อีกโดยวิธีการทางเทคนิค (Pseudonymous Data) ข้อมูลผู้ถึงแก่กรรม เป็นต้น

“เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล” (Data Subject) หมายถึง ตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลนั้น แต่ไม่ใช่กรณีที่บุคคลมีความเป็นเจ้าของข้อมูล (Ownership) หรือเป็นผู้สร้างหรือเก็บรวบรวมข้อมูลนั้นเอง โดยเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลนี้จะหมายถึงบุคคลธรรมดาเท่านั้น และไม่รวมถึง “นิติบุคคล” (Juridical Person) ที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมาย เช่น บริษัท สมาคม มูลนิธิ หรือองค์กรอื่นใด
ทั้งนี้ หากการขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่เป็นไปตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลไม่มีผลผูกพันเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

“ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล” หมายความว่า บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งมีอำนาจหน้าที่ตัดสินใจเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

“ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล” หมายความว่า บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งดำเนินการเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามคำสั่งหรือในนามของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้ บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งดำเนินการดังกล่าวไม่เป็นผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล

“การประมวลผล” หมายความว่า การเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

2. แหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคลที่วารสารฯ เก็บรวบรวม

 วารสารฯ เก็บรวบรวมหรือได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลประเภทต่าง ๆ จากแหล่งข้อมูลดังต่อไปนี้

2.1 ข้อมูลส่วนบุคคลที่วารสารฯ เก็บรวบรวมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลโดยตรงในช่องทางให้บริการต่าง ๆ เช่น การสมัคร ลงทะเบียน ทำแบบสำรวจ ภาพถ่าย วีดีโอกิจกรรมการประชุม/อบรม หรือเมื่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลติดต่อสื่อสารกับวารสารฯ ณ ที่ทำการหรือผ่านช่องทางติดต่ออื่นที่ควบคุมดูแลโดย วารสารฯ เป็นต้น

2.2 ข้อมูลที่วารสารฯ เก็บรวบรวมจากการที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเข้าใช้งานเว็บไซต์ ผลิตภัณฑ์หรือบริการอื่น ๆ ตามสัญญาหรือตามพันธกิจ เช่น การติดตามพฤติกรรมการใช้งานเว็บไซต์ ผลิตภัณฑ์หรือบริการ ด้วยการใช้คุกกี้ (Cookies) หรือจากซอฟต์แวร์บนอุปกรณ์ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เป็นต้น

2.3 ข้อมูลส่วนบุคคลที่วารสารฯ เก็บรวบรวมจากแหล่งอื่นนอกจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล โดยที่แหล่งข้อมูลดังกล่าวมีอำนาจหน้าที่ มีเหตุผลที่ชอบด้วยกฎหมายหรือได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลแล้วในการเปิดเผยข้อมูลแก่วารสารฯ เช่น การเชื่อมโยงบริการดิจิทัลของหน่วยงานของรัฐในการให้บริการเพื่อประโยชน์สาธารณะแบบเบ็ดเสร็จแก่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเอง การรับข้อมูลส่วนบุคคลจากหน่วยงานของรัฐแห่งอื่นในฐานะที่วารสารฯ มีหน้าที่ตามพันธกิจในการดำเนินการจัดให้มีศูนย์แลกเปลี่ยนข้อมูลกลางเพื่อสนับสนุนการดำเนินการของหน่วยงานของรัฐในการให้บริการประชาชนผ่านระบบดิจิทัล รวมถึงจากความจำเป็นเพื่อให้บริการตามสัญญาที่อาจมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลส่วนบุคคลกับหน่วยงานคู่สัญญาได้

นอกจากนี้ ยังหมายความรวมถึงกรณีที่ท่านเป็นผู้ให้ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลภายนอกแก่วารสารฯ ดังนี้ ท่านมีหน้าที่รับผิดชอบในการแจ้งรายละเอียดตามนโยบายนี้หรือประกาศของผลิตภัณฑ์หรือบริการ ตามแต่กรณีให้บุคคลดังกล่าวทราบ ตลอดจนขอความยินยอมจากบุคคลนั้นหากเป็นกรณีที่ต้องได้รับความยินยอมในการเปิดเผยข้อมูลแก่วารสารฯ ทั้งนี้ ในกรณีที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลปฏิเสธให้ข้อมูลที่มีความจำเป็นในการให้บริการของวารสารฯ อาจเป็นผลให้วารสารฯ ไม่สามารถให้บริการนั้นแก่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวได้ทั้งหมดหรือบางส่วน

3. การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

(1) การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล

วารสารฯ จะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลอย่างจำกัดและเท่าที่จำเป็น โดยขึ้นอยู่กับประเภทของบริการที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลใช้บริการหรือให้ข้อมูลส่วนบุคคลกับวารสารฯ เช่น การลงทะเบียนสมัครเข้าร่วมกิจกรรม การลงทะเบียนขอใช้บริการต่าง ๆ การลงทะเบียนเพื่อเข้ารับการประเมินวารสาร เป็นต้น ทั้งที่ผ่านวารสารฯ โดยตรงและผ่านระบบสารสนเทศของวารสารฯ ซึ่งจะมีการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวเท่าที่จำเป็นเท่านั้น

(2) การใช้ข้อมูลส่วนบุคคล

วารสารฯ จะใช้ข้อมูลส่วนบุคคลตามวัตถุประสงค์ที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลให้ไว้กับวารสารฯ โดยใช้อย่างเหมาะสมและมีมาตรการ
การรักษาความมั่นคงปลอดภัยและมีการควบคุมการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล

(3) การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

วารสารฯ อาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อประเภทของบุคคลและช่องทางดังต่อไปนี้

  • หน่วยงานต้นสังกัดของท่าน เช่น กรณีหน่วยงานร้องขอเป็นหนังสือมายังวารสารฯ ขอให้จัดส่งรายงานข้อมูลผู้เข้าประชุมซึ่งเป็นบุคลากรในสังกัดของหน่วยงาน เป็นต้น
  • เจ้าหน้าที่ของรัฐ หน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่ หรือบุคคลอื่นเพื่อการดำเนินการตามที่กฎหมายกำหนด คำสั่งของผู้มีอำนาจ คำสั่งหรือหมายศาล เป็นต้น
  • หน่วยงานเครือข่าย คู่สัญญา ผู้ให้บริการหรือบุคคลผู้เกี่ยวข้องหรือมีความจำเป็นในการให้บริการของวารสารฯ ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับข้อมูลของท่าน เช่น ผู้ให้บริการระบบฐานข้อมูล ผู้จัดส่งเอกสารหรือผู้พัฒนาเว็บไซต์ เป็นต้น
  • ประกาศต่อสาธารณะ ในกรณีเช่น การค้นหาข้อมูลการตีพิมพ์บทความ การประกาศรายชื่อผู้เข้าร่วมประชุม รูปภาพ คลิปวีดีโอกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการประชุม สื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์ซึ่งมีผู้เข้าร่วมประชุมหรือวิทยากรปรากฏเป็นส่วนใดส่วนหนึ่งของสื่อ ผ่านช่องทางเว็บไซต์ของวารสารฯ tci-thailand.org และประกาศผ่านสื่อ Social Media ของวารสารฯ เป็นต้น

ทั้งนี้ กรณีที่การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจำเป็นต้องได้รับความยินยอมจากท่านก่อน วารสารฯ จะดำเนินการขอความยินยอมตามข้อกำหนดและเงื่อนไขของกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

4. วัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

วารสารฯ ใช้วิธีการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย ข้อมูลส่วนบุคคลด้วยวิธีการที่ชอบด้วยกฎหมายและเป็นธรรม โดยจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลเท่าที่จำเป็น เพื่อใช้ในการติดต่อให้บริการ ประชาสัมพันธ์ หรือให้ข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ รวมทั้งสำรวจความคิดเห็นของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในกิจการหรือกิจกรรมของวารสารฯ ภายใต้วัตถุประสงค์ในการดำเนินงานของวารสารฯ เท่านั้น หรือตามที่กฎหมายกำหนด ทั้งนี้ หากมีการเปลี่ยนแปลงวัตถุประสงค์ สำนักงานจะแจ้งให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบ และบันทึกเพิ่มเติมไว้เป็นหลักฐาน รวมทั้งปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

5. ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล

วารสารฯ จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลตราบเท่าที่จำเป็นต่อการประมวลผล เมื่อพ้นระยะเวลาการเก็บรักษาดังกล่าวหรือไม่มีความจำเป็นที่จะประมวลผลอีกต่อไป วารสารฯ จะดำเนินการลบ ทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้

6. สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

ความยินยอมที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลให้ไว้กับวารสารฯ ในการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลยังคงใช้ได้จนกว่าเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลจะเพิกถอนความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษร โดยเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลสามารถเพิกถอนความยินยอมหรือระงับการใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อวัตถุประสงค์ในการดำเนินกิจกรรมใด ๆ หรือทุกกิจกรรมของวารสารฯ โดยส่งคำขอของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลแจ้งให้วารสารฯ ทราบเป็นลายลักษณ์อักษรหรือผ่านทางจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ wesr@ddc.mail.go.th

นอกจากสิทธิดังกล่าวข้างต้น เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลยังมีสิทธิในการปกป้องข้อมูลหลักของคุณ ดังต่อไปนี้

 

(1) สิทธิในการเพิกถอนความยินยอม (right to withdraw consent) เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิเพิกถอนความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ให้ความยินยอมไว้แก่วารสารฯ ได้ตลอดระยะเวลาที่ข้อมูลส่วนบุคคลของตนอยู่กับวารสารฯ

(2) สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล (right of access)

เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของตนและขอให้วารสารฯ ทำสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวให้แก่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงขอให้วารสารฯ เปิดเผยการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไม่ได้ให้ความยินยอมต่อวารสารฯ ได้

(3) สิทธิในการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง (right to rectification)

เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิขอให้วารสารฯ แก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่ถูกต้อง หรือเพิ่มเติมข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่สมบูรณ์

(4) สิทธิในการลบข้อมูลส่วนบุคคล (right to erasure)

เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิในการขอให้วารสารฯ ทำการลบข้อมูลส่วนบุคคลของตนด้วยเหตุบางประการได้

(5) สิทธิในการระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล (right to restriction of processing)

เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของตนด้วยเหตุบางประการได้

(6) สิทธิในการให้โอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคล (right to data portability)

เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิให้วารสารฯ โอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ให้ไว้กับวารสารฯ ไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลรายอื่น หรือตัวเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเองด้วยเหตุบางประการได้

(7) สิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (right to object)

เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของตนด้วยเหตุบางประการได้ วารสารฯ เคารพการตัดสินใจการเพิกถอนความยินยอมของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล แต่อย่างไรก็ตาม ขอแจ้งให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบว่าอาจมีข้อจำกัดสิทธิในการเพิกถอนความยินยอมโดยกฎหมายหรือสัญญาที่ให้ประโยชน์แก่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้ การเพิกถอนความยินยอมย่อมไม่ส่งผลกระทบต่อการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ให้ความยินยอมไว้แล้ว

7. การรักษาความมั่นคงปลอดภัยสำหรับข้อมูลส่วนบุคคล

วารสารฯ จัดให้มีมาตรการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยที่เหมาะสม เพื่อป้องกัน การเข้าถึง การใช้ การเปลี่ยนแปลง การแก้ไข หรือการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยปราศจากอำนาจหรือโดยมิชอบ นอกจากนี้ วารสารฯ ได้กำหนดแนวปฏิบัติภายในหน่วยงานเพื่อกำหนดสิทธิในการเข้าถึงหรือการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อรักษาความลับและความปลอดภัยของข้อมูล และวารสารฯ จะจัดให้มีการทบทวนมาตรการดังกล่าวเป็นระยะเพื่อความเหมาะสม

8. ข้อมูลการใช้เว็บไซต์

8.1 ในขณะที่คุณใช้เว็บไซต์ WESR วารสารฯ จะติดตามและบันทึกการเข้าชมของคุณในหน้าเว็บไซต์แต่ละหน้าในไฟล์บันทึกเว็บเซิร์ฟเวอร์ (“ข้อมูลบันทึก”) ข้อมูลบันทึกอาจถูกใช้โดย WESR เพื่อวัตถุประสงค์ทางสถิติเพื่อรู้จักแนวโน้มการใช้เว็บไซต์และเพื่อปรับปรุงโครงสร้างและการนำเสนอเนื้อหา ข้อมูลการใช้ที่วารสารฯเก็บรวบรวม (โดยใช้ HTTP Cookies) รวมถึง URL ที่อ้างอิง ลักษณะของเบราว์เซอร์และอุปกรณ์ ที่อยู่ IP ระบบปฏิบัติการ และวันที่และเวลาของการเข้าชมเว็บไซต์ เมื่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเข้าชมเว็บไซต์ในครั้งถัดไป เว็บไซต์จะจดจำได้ว่าเป็นผู้ใช้ที่เคยเข้าใช้บริการแล้ว และตั้งค่าตามที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด จนกว่าเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลจะลบคุกกี้ (Cookies) หรือไม่อนุญาตให้คุกกี้ (Cookies) นั้นทำงานอีกต่อไป ซึ่งเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลสามารถที่จะยอมรับหรือไม่รับคุกกี้ (Cookies) ก็ได้ ในกรณีที่เลือกที่จะไม่รับหรือลบคุกกี้ (Cookies) เว็บไซต์อาจจะไม่สามารถให้บริการหรือไม่สามารถแสดงผลได้อย่างถูกต้อง

 

8.2 เว็บไซต์ WESR อาจใช้ Google Analytics เพื่อช่วยให้เก็บข้อมูลเกี่ยวกับวิธีการเยี่ยมชมเว็บไซต์ WESR ทางวารสารฯจะใช้ข้อมูลเหล่านี้เพื่อรวบรวมรายงานและช่วยให้เราปรับปรุงเว็บไซต์ เครื่องมือคุกกี้จะเก็บข้อมูลในรูปแบบที่ไม่ระบุชื่อ รวมถึงจำนวนผู้เยี่ยมชมในเว็บไซต์ ที่บุคคลนั้น ๆ เข้ามายังเว็บไซต์จากเบราว์เซอร์หรือเพจไหน และหน้าเพจที่บุคคลนั้น ๆ เยี่ยมชมขณะอยู่บนเว็บไซต์

9. การปรับปรุงนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

วารสารฯ อาจทำการปรับปรุงหรือแก้ไขนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล โดยมิต้องแจ้งให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ เพื่อความเหมาะสมและมีประสิทธิภาพในการให้บริการ ดังนั้น วารสารฯ จึงขอแนะนำให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลอ่านนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลทุกครั้งที่เยี่ยมชมหรือใช้บริการจากวารสารฯ หรือเว็บไซต์ของวารสารฯ

10. การปฏิบัติตามนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและการติดต่อกับวารสารฯ

ในกรณีที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีข้อสงสัยหรือข้อเสนอแนะเกี่ยวกับนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลหรือการปฏิบัติตามนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ วารสารฯ ยินดีตอบข้อสงสัย และรับฟังข้อเสนอแนะ เพื่อประโยชน์ต่อการปรับปรุงการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและการให้บริการของวารสารฯ ต่อไป โดยเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลสามารถติดต่อกับวารสารฯ ได้ที่ wesr@ddc.mail.go.th หรือตามที่อยู่ด้านล่างนี้

ที่อยู่ : กองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค

อาคาร 10-11 ชั้น 3 88/21 ถนนติวานนท์ ตำบลตลาดขวัญ อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี 11000

โทร/โทรสาร: 02 590 3805

Email: wesr@ddc.mail.go.th